การปลูกพืชไร้ดินหลายท่านอาจจะคิดถึงการปลูกที่รากต้องแช่ในน้ำผสมสารละลายเท่านั้น
แต่ความเป็นจริงแล้วการปลูกพืชไร้ดินนั้น
มีความหมายรวมถึงการปลูกพืชในวัสดุปลูกอื่นๆ ที่นำมาใช้ทดแทนการปลูกด้วยดิน
เช่น การปลูกในวัสดุธรรมชาติเช่น ขุยมะพร้าว,
แกลบ, ทราย ฯลฯ รวมถึงวัสดุสังเคราะห์เช่น
ฟองน้ำ, ร็อควู้ด, เพอร์ไลท์ ฯลฯ
ในบทความนี้ผมจะอธิบายถึงความหมาย, ความสำคัญ, ข้อดี, ข้อเสีย ของการปลูกพืชไร้ดินให้ทราบครับ
ความหมายของการปลูกพืชไร้ดิน คือ การปลูกพืชด้วยการเลียนแบบการปลูกพืชบนดินแต่ผู้ปลูกจะใช้วัสดุปลูกอื่นๆ มาใช้ทดแทนการปลูกด้วยดิน
ข้อแตกต่างระหว่างการปลูกพืชบนดิน กับการปลูกพืชไร้ดิน
ตามธรรมชาติพืชจะเจริญเติบโตได้ต้องอาศัยปัจจัยที่เหมาะสมคือ แสง, น้ำ, ธาตุอาหาร, อุณหภูมิ, ความเป็นกรดด่าง, อ๊อกซิเจน และ คาร์บอนไดอ๊อกไซด์ ทั้งในส่วนของรากและในส่วนที่อยู่เหนือดิน สำหรับการปลูกพืชบนดินนั้นมักประสบปัญหาเรื่องคุณสมบัติของดินที่ไม่เหมาะสมกับการปลูกพืช เช่น ดินมีปริมาณธาตุอาหารต่ำ มีความเป็นกรดด่างไม่เหมาะสม ทำให้เกิดความยุ่งยากและเสียค่าใช้จ่ายสูงในการปรับปรุงดินเพื่อให้เหมาะสมต่อการเพาะปลูก ทำให้การปลูกบนดินมักจะได้ผลผลิตที่ไม่สม่ำเสมอทั้งในด้านของปริมาณและคุณภาพ
สำหรับการปลูกพืชแบบไร้ดินนั้น ผู้ปลูกจะให้พืชได้รับน้ำที่ผสมสารละลายธาตุอาหารโดยตรง ซึ่งการปลูกนั้นจะปลูกแบบรากสัมผัสกับน้ำโดยตรงหรือมีวัสดุปลูกผสมร่วมด้วยก็ได้ ซึ่งวิธีการนี้จะทำให้ผู้ปลูกสามารถควบคุมการให้น้ำและธาตุอาหารพืชให้เหมาะสมและง่ายกว่าการปลูกบนดินมาก แต่การปลูกพืชแบบไร้ดินในประเทศเขตร้อน โดยเฉพาะการปลูกแบบรากแช่ในสารละลายมักประสบปัญหาในเรื่องของปริมาณอ๊อกซิเจนที่รากไม่เพียงพอ โดยเฉพาะในพืชที่ต้องการอ๊อกซิเจนที่รากมากเช่น พืชตะกูลแตง, มะเขือเทศ, พริกหวาน ฯลฯ แต่เราสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้โดยการเพิ่มวัสดุปลูกลงไปในระบบปลูกเพื่อให้รากมีพื้นที่ยึดเกาะและมีพื้นที่รับอ๊อกซิเจนเพิ่มขึ้น
ความหมายของการปลูกพืชไร้ดิน คือ การปลูกพืชด้วยการเลียนแบบการปลูกพืชบนดินแต่ผู้ปลูกจะใช้วัสดุปลูกอื่นๆ มาใช้ทดแทนการปลูกด้วยดิน
ข้อแตกต่างระหว่างการปลูกพืชบนดิน กับการปลูกพืชไร้ดิน
ตามธรรมชาติพืชจะเจริญเติบโตได้ต้องอาศัยปัจจัยที่เหมาะสมคือ แสง, น้ำ, ธาตุอาหาร, อุณหภูมิ, ความเป็นกรดด่าง, อ๊อกซิเจน และ คาร์บอนไดอ๊อกไซด์ ทั้งในส่วนของรากและในส่วนที่อยู่เหนือดิน สำหรับการปลูกพืชบนดินนั้นมักประสบปัญหาเรื่องคุณสมบัติของดินที่ไม่เหมาะสมกับการปลูกพืช เช่น ดินมีปริมาณธาตุอาหารต่ำ มีความเป็นกรดด่างไม่เหมาะสม ทำให้เกิดความยุ่งยากและเสียค่าใช้จ่ายสูงในการปรับปรุงดินเพื่อให้เหมาะสมต่อการเพาะปลูก ทำให้การปลูกบนดินมักจะได้ผลผลิตที่ไม่สม่ำเสมอทั้งในด้านของปริมาณและคุณภาพ
สำหรับการปลูกพืชแบบไร้ดินนั้น ผู้ปลูกจะให้พืชได้รับน้ำที่ผสมสารละลายธาตุอาหารโดยตรง ซึ่งการปลูกนั้นจะปลูกแบบรากสัมผัสกับน้ำโดยตรงหรือมีวัสดุปลูกผสมร่วมด้วยก็ได้ ซึ่งวิธีการนี้จะทำให้ผู้ปลูกสามารถควบคุมการให้น้ำและธาตุอาหารพืชให้เหมาะสมและง่ายกว่าการปลูกบนดินมาก แต่การปลูกพืชแบบไร้ดินในประเทศเขตร้อน โดยเฉพาะการปลูกแบบรากแช่ในสารละลายมักประสบปัญหาในเรื่องของปริมาณอ๊อกซิเจนที่รากไม่เพียงพอ โดยเฉพาะในพืชที่ต้องการอ๊อกซิเจนที่รากมากเช่น พืชตะกูลแตง, มะเขือเทศ, พริกหวาน ฯลฯ แต่เราสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้โดยการเพิ่มวัสดุปลูกลงไปในระบบปลูกเพื่อให้รากมีพื้นที่ยึดเกาะและมีพื้นที่รับอ๊อกซิเจนเพิ่มขึ้น
ข้อดีของการปลูกพืชไร้ดินคือ
1. การปลูกโดยไม่ใช้ดิน สามารถปลูกพืชได้ในพื้นที่ซึ่งดินมีสมบัติไม่เหมาะสมต่อการปลูกพืช เช่น ดินเค็ม ดินเปรี้ยว หรือดินปนเปื้อนด้วยสารพิษ ฯลฯ รวมทั้งพื้นที่ซึ่งไม่มีดิน เช่น บนอาคารสูง
2. ให้ผลผลิตในการปลูกสูง และมีความสม่ำเสมอ เนื่องจากผู้ปลูกสามารถควบคุมปัจจัยการเจริญเติบของพืชได้ดีกว่าการปลูกบนดิน
3. ใช้ระยะเวลาการปลูกสั้น และมีรอบการปลูกใน 1 ปีมากกว่าการปลูกบนดิน เนื่องจากการปลูกแบบไร้ดินนี้ผู้ปลูกสามารถปลูกพืชต่อเนื่องกันในพื้นที่เดิม โดยไม่ต้องมีการพักการปลูกเพื่อฟื้นฟูดินหลังเพาะปลูก
4. ลดปัญหา ของโรคและแมลงที่มักจะมีสาเหตุมามาจากดินที่มีการเพาะปลูกอย่างต่อเนื่อง
5. ประหยัดแรงงาน, เวลา และค่าใช้จ่ายในการเพาะปลูก เช่น เรื่องการเตรียมดินก่อนปลูก, การกำจัดวัชพืช, การรดน้ำ, การเติมปุ๋ย
6. การใช้น้ำและธาตุอาหารพืชมีประสิทธิภาพและมีความประหยัดมากกว่าการปลูกพืชบนดินมาก
7. ประหยัดค่าขนส่งผลผลิต เนื่องจากผู้ปลูกสามารถเลือกสถานที่เพาะปลูกให้ใกล้กับแหล่งรับซื้อทำให้สามารถลดระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการขนส่งไปได้มาก
ข้อจำกัดของการปลูกพืชไร้ดิน
1. เป็นการปลูกที่มีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นสำหรับอุปกรณ์ในการปลูกค่อนข้างสูง
2. ผู้ปลูกต้องศึกษาทำความเข้าใจในระบบการปลูกให้ดีเสียก่อน และต้องอาศัยประสบการณ์ในการปลูกเพื่อนำมาช่วยพัฒนาผลผลิตให้ดีขึ้น
1. การปลูกโดยไม่ใช้ดิน สามารถปลูกพืชได้ในพื้นที่ซึ่งดินมีสมบัติไม่เหมาะสมต่อการปลูกพืช เช่น ดินเค็ม ดินเปรี้ยว หรือดินปนเปื้อนด้วยสารพิษ ฯลฯ รวมทั้งพื้นที่ซึ่งไม่มีดิน เช่น บนอาคารสูง
2. ให้ผลผลิตในการปลูกสูง และมีความสม่ำเสมอ เนื่องจากผู้ปลูกสามารถควบคุมปัจจัยการเจริญเติบของพืชได้ดีกว่าการปลูกบนดิน
3. ใช้ระยะเวลาการปลูกสั้น และมีรอบการปลูกใน 1 ปีมากกว่าการปลูกบนดิน เนื่องจากการปลูกแบบไร้ดินนี้ผู้ปลูกสามารถปลูกพืชต่อเนื่องกันในพื้นที่เดิม โดยไม่ต้องมีการพักการปลูกเพื่อฟื้นฟูดินหลังเพาะปลูก
4. ลดปัญหา ของโรคและแมลงที่มักจะมีสาเหตุมามาจากดินที่มีการเพาะปลูกอย่างต่อเนื่อง
5. ประหยัดแรงงาน, เวลา และค่าใช้จ่ายในการเพาะปลูก เช่น เรื่องการเตรียมดินก่อนปลูก, การกำจัดวัชพืช, การรดน้ำ, การเติมปุ๋ย
6. การใช้น้ำและธาตุอาหารพืชมีประสิทธิภาพและมีความประหยัดมากกว่าการปลูกพืชบนดินมาก
7. ประหยัดค่าขนส่งผลผลิต เนื่องจากผู้ปลูกสามารถเลือกสถานที่เพาะปลูกให้ใกล้กับแหล่งรับซื้อทำให้สามารถลดระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการขนส่งไปได้มาก
ข้อจำกัดของการปลูกพืชไร้ดิน
1. เป็นการปลูกที่มีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นสำหรับอุปกรณ์ในการปลูกค่อนข้างสูง
2. ผู้ปลูกต้องศึกษาทำความเข้าใจในระบบการปลูกให้ดีเสียก่อน และต้องอาศัยประสบการณ์ในการปลูกเพื่อนำมาช่วยพัฒนาผลผลิตให้ดีขึ้น